วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

กล้องวงจรปิด มารู้เรื่องกล้องวงจรปิดกัน3

    
บทความที่ 1 (กล้องวงจรปิดระบบ Analog และ กล้องวงจรปิดระบบ IP ต่างกันอย่างไร)
บทความที่ 2 (มาตรฐานการป้องกันฝุ่น IP Rate)
บทความที่ 4 (H.264 คืออะไร)
  
การเลือกระบบกล้องวงจรปิดด้วยตัวเอง


       ปัจจุบันกล้องวงจรปิดได้พัฒนาปรับปรุงรูปแบบของกล้องรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้ได้ความคมชัดของภาพเพิ่มมากขึ้น ขนาดของกล้องเล็กลง รวมถึงการพัฒนาให้มีการบีบอัดของภาพที่เล็กลง (H.264) สามารถเพิ่มระยะเวลาการบันทึกภาพให้นานขึ้น ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีของกล้องวงจรปิดแต่ละยี่ห้อถ้าหากเป็นเทคโนโลยีเดียวกัน สามารถนำมาใช้งานร่วมกันได้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน เช่น ระบบ TVI, AHD, CVI เป็นต้น


ปัจจัยในการเลือกกล้องวงจรปิด (CCTV)

1. ความละเอียดของภาพ
       ระบบ Analog ปัจจุบันกล้องวงจรปิดระบบ Analog ส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้ระบบ HD ในการแสดงภาพกันหมดแล้ว คือความละเอียดเริ่มต้นที่ 1.0 Megapixel ขึ้นไป ดังนั้นความเลือกกล้องวงจรปิดที่ใช้เทคโนโลยีปัจจุบัน (TVI, AHD, CVI) ไม่ควรเลือกกล้องวงจรปิดที่ยังใช้ระบบ TVL อยู่ เพราะอนาคตถ้าตัวกล้องเกิดปัญหาจะไม่สามารถหาอะไหล่มาเปลี่ยนได้  
         กล้อง IP CAMERA โดยปกติความละเอียดของภาพจะอยู่ที่ 1.3 Megapixel ไปจนถึง 2 Megapixel แต่ในบางรุ่นความละเอียดมากถึง 5 Megapixel แต่ราคาค่อนข้างสูงอยู่ (รายละเอียดของทั้ง 2 ระบบได้กล่าวถึงแล้วในบทความตอนที่1)   


2. กล้องภายใน / กล้องภายนอก
     กล้องวงจรปิดมีทั้งแบบใช้สำหรับติดตั้งภายในและสำหรับติดตั้งภายนอก ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา โดยคำนึงถึงพื้นที่และความสวยงามหลังติดตั้ง เช่น กล้องโดมสำหรับติดภายในบ้าน (Indoor) รูปร่างของกล้องจะอยู่ในโดมครึ่งวงกลม มีขนาดเล็ก ทำให้ดูกลมกลืนกับพื้นที่ ส่วนกล้องภายนอก (Outdoor) ใช้สำหรับติดตั้งภายนอกอาคารหรือนอกบ้าน ลักษณะของกล้องประเภทนี้คือเป็นกล้องรูปทรงกระบอกมีขายึดติดกับผนังหรือฝ้าเพดาน ถ้าจำเป็นต้องติดตั้งอยู่ตรงพื้นที่โล่ง กลางแจ้ง ต้องตากแดดตากฝน เราอาจจะเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันตัวกล้อง (Housing) เพิ่มเติมได้ 


3. ระยะอินฟาเรด
     สำหรับระยะอินฟาเรดเมื่อต้องการบันทึกภาพในเวลาตอนกลางคืนถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างนึงที่ต้องเลือกมาใช้งาน เช่น ต้องการติดภายในบ้านอาจจะเป็นกล้องโดมระยะอินฟาเรดที่สามารถส่องถึงได้ก็ควรจะอยู่สักระยะ 10 - 15 เมตรเป็น ส่วนกล้องที่จะใช้ติดภายนอกบ้านควรเลือกระยะอินฟาเรดที่ระยะ 20-25 เมตร ส่วนระยะอินฟาเรดที่นำไปติดในโรงงานหรือ โกดังสินค้าที่มีความสูง 10 เมตร ขึ้นไปก็ให้เพิ่มระยะอินฟาเรดเป็น 25-30 เมตร เป็นต้น ปัญหาที่มักพบบ่อยคือการเลือกซื้อกล้องที่ระยะอินฟาเรดระยะสั้นไปใช้ กับพื้นที่สูงเกินระยะอินฟาเรดที่ตัวกล้องกำหนดไว้ ทำให้ช่วงเวลากลางคืนอินฟาเรดส่องไปไม่ถึงจึงทำให้เกิดภาพมัวๆ ขาวๆ ภาพไม่ชัด เนื่องจากอินฟาเรดส่องไม่ถึง ซึ่งกล้องที่มีระยะอินฟาเรดสามารถส่องได้ไกล ตัวกล้องเองจะมีราคาที่แพงขึ้นตามไปด้วย


4. การรับประกันของกล้องวงจรปิด
     ปัจจุบันการรับประกันกล้องวงจรปิดจากตัวแทนจำหน่ายเบื้องต้นจะอยู่ที่ 1 ปีเป็นอย่างน้อย แต่การเลือกซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งด้วยตัวเองควรเรียกใบรับประกันจากตัวแทนจำหน่ายด้วย หรือการเลือกบริษัทฯ จำหน่ายพร้อมติดตั้งทั้งระบบควรเลือกบริษัทฯ ที่มั่นใจได้ว่าจะไม่มีความบกพร่องของการบริการหลังการขาย


5. สำหรับการเลือกเครื่องบันทึก DVR หรือ NVR
     โดยทั่วไปมักจะเลือกตามจำนวนของกล้องวงจรปิด เครื่องบันทึกโดยทั่วไปที่ผลิตออกมาจะเป็น 4CH, 8CH, 16CH, 24CH, 32CH (ควรคำนึงถึงเรื่องการเพิ่มกล้องในอนาคตด้วย) การเลือกเครื่องบันทึกต้องดูเทคโนโลยีของตัวกล้องด้วยว่าเป็นเทคโนโลยีของอะไร TVI, AHD, CVI หรือกล้อง Analog ธรรมดา หรือเป็นกล้องระบบ IP เนื่องจากเทคโนโลยีของกล้องที่ต่างกันกับระบบของเครื่องบันทึกในการนำมาเชื่อมต่อกันจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องของภาพไม่ติด เช่น ซื้อกล้อง HD-TVI ตัวเครื่องบันทึกควรจะเป็นระบบ HD-TVI เช่นเดียวกัน (แว่วๆว่ามีบางยี่ห้อที่เครื่องบันทึกสามารถรองรับกล้องได้เกือบทุกระบบ แต่จะยุ่งยากเรื่องการตั้งค่าของเครื่องอยู่พอสมควร) 
     ข้อดีของ DVR รุ่นใหม่ๆ คือสามารถเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดรุ่นเก่าๆ ที่เป็นกล้องอนาล็อคธรรมดาได้ แต่กลับกันเครื่องบันทึกรุ่นเก่าจะไม่สามารถรองรับกับเทคโนโลยีกล้องรุ่นใหม่ได้ กรณีซื้อแยกกันหรือมีกล้อง, เครื่องบันทึกรุ่นใดอยู่แล้ว ถ้ามีความต้องการซื้อเพิ่มควรเช็คในจุดนี้ด้วยเพื่อป้องกันปัญหาเรื่องความไม่เข้ากันของระบบ (ควรปรึกษาตัวแทนจำหน่ายโดยตรง)
     ส่วนตัวของเครื่องบันทึกเองควรจะดูฟังก์ชั่นอื่นๆประกอบด้วย เช่น สามารถตั้งค่าให้บันทึกภาพตลอดเวลาหรือจะให้บันทึกเฉพาะเวลาที่กล้องจับภาพขณะมึความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น เพื่อยืดระยะจำนวนวันในการบันทึกภาพให้นานขึ้น (ลดการใช้ทรัพยากรของฮาร์ดดิส) 
     ข้อแตกต่างระหว่าง DVR และ NVR คือ 
        - DVR (Digital Video Recorder) เป็นระบบบันทึกสัญญาณภาพที่ใช้กับกล้องวงจรปิดระบบอนาล็อก (Analog) 
       - NVR (Network Video Recorder) เป็นระบบบันทีึกสัญญาณภาพที่ใช้กับกล้องวงจรปิดระบบ IP ราคาค่อนข้างสูง (รายละเอียดของทั้ง 2 ระบบได้กล่าวถึงแล้วในบทความตอนที่1)   
     

6. ฮาร์ดดิส (Harddisk)
  Harddisk ถือเป็นหัวใจหลักของระบบกล้องวงจรปิดเช่นเดียวกัน และขนาดของฮาร์ดดิสจะเป็นตัวกำหนดความต้องการของเราว่าต้องการอะไรบ้าง เช่น ระยะเวลาต้องการบันทึกว่าต้องการให้ข้อมูลถูกบันทึกจำนวนกี่วัน ความละเอียดของภาพต้องการความละเอียดเท่าไหร่ หรือมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องการด้วย เป็นต้นว่าต้องการให้บันทึกภาพพร้อมเสียงด้วยหรือไม่ ตัวอย่างเช่น กล้อง 1.3 Megapixel จำนวน 4 กล้อง บันทึกตลอดเวลา ต้องการเก็บข้อมูลที่บันทึกได้จำนวน 14 วัน จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดดิส 2-3 TB เป็นต้น
     ส่วนใหญ่ฮาร์ดดิสที่ใช้กับกล้องวงจรปิดส่วนมากจะเป็นแบบ WD Purple เนื่องจากสามารถรองรับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ทนความร้อนได้ดีกว่าฮาร์ดดิสทั่วไป 

7.เครื่องสำรองไฟ (UPS)
      อันนี้มีความสำคัญในการป้องกันในเรื่องไฟตก ไฟกระชาก เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องบันทึกและฮาร์ดดิสให้อยู่กับเรานานขึ้น การเลือกเครื่องสำรองไฟ ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานว่ามีความต้องการสำรองไฟได้นานแค่ไหน เช่น ติดตั้งกล้องจำนวน 4 ตัว พร้อมเครื่องบันทึกแบบ 4 ch. จำนวน 1 ชุด ต้องการสำรองไฟให้กับเครื่องบันทึกครึ่งชั่วโมง เครื่องสำรองไฟที่ใช้ควรใช้ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 VA. เป็นต้น

  ภาพรวมของการเลือกกล้องวงจรปิดคือ การเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ติดตั้ง ระยะเวลาที่ต้องการบันทึก คุณภาพของภาพหลังการบันทึก และเหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้ 



บริษัท โมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (สำนักงานใหญ่) จำหน่ายและติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV), ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัย (Fire Alarm), ระบบคีย์การ์ด (Access Control, Finger Scan) , ระบบตู้สาขาโทรศัพท์ (PABX), ระบบสัญญาณกันขโมยบ้าน, ระบบติดตามผ่านดาวเทียม (GPS), ระบบเสียงตามสาย, ไม้กั้น ไม้ยก, บริการเดินสายภายในและภายนอกอาคาร (โทรศัพท์, ไฟฟ้า, Lan, Fiber Optic) และรับ  Maintenance ระบบต่างๆ เป็นรายปี สามารถตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ติดตั้งระบบโดยทีมช่างของบริษัทฯ และมีวิศวกรควบคุม ด้วยประสบการณ์ 16 ปี ทำให้เรามั่นใจในคุณภาพและการบริการหลังการขาย ผลงานที่ผ่านมา เช่น ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV)ใหม่ และบำรุงรักษา (Maintennace) ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ของเดิมให้กับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 5 (งบประมาณ 14 ล้านบาท), ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ใหม่ และบำรุงรักษา (Maintenance) ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) ของเดิมให้กับวัดท่าไม้, ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) และระบบคีย์การ์ด (Access Control) ให้กับบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด (สาขาดีซี) และผลงานติดตั้งระบบอื่นๆให้กับลูกค้าทั้งส่วนราชการและเอกชนมากกว่า 2,000 ราย (ทั่วประเทศ) และเพื่อความสะดวกในการบริการที่ครอบคลุมและรวดเร็วเรายังมีสาขาบางแคไว้คอยบริการท่าน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV), ระบบสัญญาณเตือนอัคคีภัย (Fire Alarm), ระบบคีย์การ์ด (Access Control, Finger Scan) , ระบบตู้สาขาโทรศัพท์ (PABX), ระบบสัญญาณกันขโมยบ้าน, ระบบติดตามผ่านดาวเทียม (GPS), ระบบเสียงตามสาย, ไม้กั้น ไม้ยก, บริการเดินสายภายในและภายนอกอาคาร (โทรศัพท์, ไฟฟ้า, Lan, Fiber Optic) หรือสอบถามการบริการอื่นๆ ได้ที่ 089-188-9339, 02-690-4744 (สำนักงานใหญ่), 02-803-2772 (สาขาบางแค) email : aree_motiontech@hotmial.com  (ว่าที่ รต.อารี ใจบุญ)
หรือที่ web site : http://www.motiontech.co.th


****สอบถาม/ประเมินหน้างาน หรือปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับระบบต่างๆ ฟรี****







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น